การที่เราจะมาเยี่ยมชม “The Franks Casket” ซึ่งถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 ในอังกฤษ เป็นเหมือนการก้าวข้ามไปยังโลกของความลี้ลับและความงดงามทางศิลปะ การแกะสลักบนกระดูกชิ้นนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานสำคัญที่สุดของศิลปะแองโกล-แซ็กซอน ไม่เพียงแต่เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของฝีมือช่างในสมัยนั้นเท่านั้น แต่ยัง ẩnกลบเรื่องราวและสัญลักษณ์ลึกลับที่นักวิชาการพยายามไขความลับมานานหลายศตวรรษ
“The Franks Casket” เป็นหนึ่งในสมบัติโบราณที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1850 ในหมู่บ้าน “Barrow-in-Furness” ใน Cumbria, อังกฤษ กระดูกชิ้นนี้ทำมาจากไม้และหุ้มด้วยแผ่นโลหะบาง ๆ และประดับด้วยการแกะสลักรูปภาพที่ซับซ้อนทั้งด้านในและด้านนอก
องค์ประกอบ | คำอธิบาย |
---|---|
วัสดุ | ไม้หุ้มด้วยแผ่นโลหะบาง |
ขนาด | 24.8 เซนติเมตร x 17.3 เซนติเมตร x 8.9 เซนติเมตร |
การแกะสลักที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและสัญลักษณ์
ภาพแกะสลักบน “The Franks Casket” แสดงถึงฉากจากเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล, ตำนานของชาวสแกนดิเนเวีย และความเชื่อโบราณของชาวยุโรปตอนเหนือ
- แผ่นหน้า: แสดงภาพ “The Raising of Lazarus” (การฟื้นคืนชีพของลาซารัส) ซึ่งเป็นฉากสำคัญจากพระกิตติคุณ
- ด้านข้าง: แสดงภาพจากตำนานโบราณของชาว Norse เช่น ตำนาน “Ragnarok” (วันสิ้นโลกของชาว Norse) และภาพ “Sigurd” (วีรบุรุษในตำนาน Norse)
ความลึกลับที่ยังคงเป็นปริศนา
แม้ว่านักวิชาการจะสามารถตีความภาพแกะสลักบางส่วนได้ แต่ก็ยังคงมีสัญลักษณ์และรูปภาพบน “The Franks Casket” ที่ยังคงเป็นปริศนา ตัวอย่างเช่น
-
รูปแกะสลักที่คล้าย “The Chi-Rho Symbol” (สัญลักษณ์ของพระเยซู): สัญลักษณ์นี้ปรากฏอยู่บนฝาครอบของกระดูกชิ้นนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าผู้สร้างกระดูกอาจเป็นชาวคริสต์
-
รูปแกะสลัก “The Three Magi” (นักปราชญ์สามองค์): การปรากฏตัวของภาพนักปราชญ์สามองค์แสดงถึงความเชื่อในเรื่องราวของพระเยซู
อิทธิพลและความสำคัญทางศิลปะ
“The Franks Casket” ถือเป็นผลงานศิลปะที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษ
-
การผสมผสานระหว่างศาสนาและตำนาน: การแกะสลักบนกระดูกชิ้นนี้แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างศาสนาคริสต์ และความเชื่อโบราณของชาว Norse
-
เทคนิคการแกะสลักที่ประณีต: ฝีมือช่างในยุคนั้นสามารถเห็นได้จากรายละเอียดและความสวยงามของภาพแกะสลักบนกระดูก
ข้อสรุป
“The Franks Casket” เป็นผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยความลึกลับและความงดงาม ซึ่งเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของฝีมือช่างในสมัยแองโกล-แซ็กซอน
การแกะสลักบนกระดูกชิ้นนี้ไม่เพียงแต่เป็นมรดกทางศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นหน้าต่างที่เปิดให้เราได้มองย้อนไปถึงอดีตและเรียนรู้เกี่ยวกับความเชื่อ และวิถีชีวิตของผู้คนในยุคนั้น