ศิลปะของเกาะชวาในศตวรรษที่ 11 เป็นยุคทองที่เต็มไปด้วยความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมและศาสนา บรรดาโบราณสถานและซากปรักหักพังที่เหลืออยู่เป็นเหมือนหน้าต่างส่องดูอดีตอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรศรีวิชัย
ในหมู่ผลงานศิลปะมากมาย ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ " relief sculpture" ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดย Oku, ช่างแกะสลักฝีมือเยี่ยมผู้หนึ่งในยุคนั้น
ความหมายและการตีความ
“relief sculpture” นั้น เป็นภาพสลักนูนสูงบนแผ่นหินทรายขนาดใหญ่ ผังงานศิลปะชิ้นนี้เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของศิลปะจา vá และ แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของ Oku ในการแกะสลัก
งานศิลปะชิ้นนี้แสดงถึงฉากสำคัญจากมหากพีร์ Ramayana ซึ่งเป็นเรื่องราวรามเกียรติ์ของอินเดียที่แพร่หลายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฉากใน " relief sculpture" | ความหมาย |
---|---|
รามา ยิงธนูใส่ราหู | แสดงถึงความกล้าหาญและความแม่นยำของรามา |
ลักชมาณถูกราหูลักพาไป | แสดงถึงการต่อสู้ระหว่างดีกับชั่ว |
เทคนิคการแกะสลัก
Oku มุ่งเน้นไปที่รายละเอียดอย่างมากใน “relief sculpture”
เราสามารถเห็นรอยย่นบนใบหน้าของตัวละคร, ลวดลายที่ซับซ้อนของเครื่องแต่งกาย, และท่าทางที่แสดงออกถึงอารมณ์
การใช้แสงและเงาเป็น yếu tốสำคัญในการสร้างความลึกในงานแกะสลัก
เทคนิคนี้ทำให้ภาพดูมีมิติและน่าดึงดูด
Oku ยังใช้วัสดุหินทรายอย่างชาญฉลาด โดยเลือกหินที่มีสีอ่อนและเนื้อละเอียดเพื่อให้การแกะสลักเป็นไปอย่างราบรื่น
**ความสำคัญของ “relief sculpture” **
“relief sculpture” เป็นงานศิลปะที่สำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของศิลปะชวา
นอกจากจะเป็นตัวอย่างของฝีมืออันยอดเยี่ยมของ Oku แล้ว ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงอิทธิพลของฮินดูและพุทธศาสนาต่อวัฒนธรรมชวาในยุคนั้น
งานศิลปะชิ้นนี้ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นหลัง และเป็นที่นิยมชมชอบของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
การอนุรักษ์ “relief sculpture”
เนื่องจากอายุและสภาพแวดล้อม “relief sculpture” จึงต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศอินโดนีเซียได้ดำเนินการฟื้นฟูและอนุรักษ์งานศิลปะชิ้นนี้เพื่อให้คงความสวยงามและคุณค่าไว้ให้ยาวนาน
นักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนจะได้รับชม “relief sculpture” ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติในจาการ์ตา
“relief sculpture” เป็นหนึ่งในผลงานศิลปะที่สำคัญที่สุดของเกาะชวาในศตวรรษที่ 11 ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของฝีมือแกะสลัก, ความเชี่ยวชาญทางศิลปะ, และอิทธิพลทางวัฒนธรรมในสมัยนั้น.